วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ประพณีลอยกระทง

ความป็นมา
 ประเพณีลอยกระทง เป็นประเพณีโบราณของไทย แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าทำกันมาตั้งแต่เมื่อไร เท่าที่ปรากฏ กล่าวได้ว่ามีมาตั้งแต่สุโขทัยเป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสันนิษฐาน ว่า เดิมทีเดียวเห็นจะเป็นพิธีของพราหมณ์ กระทำเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้ถือตามแนวทางพระพุทธศาสนา มีการชักโคมเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐาน ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทา ในสมัยสุโขทัย นางนพมาศพระสนมของพระร่วงได้คิดทำกระทงถวายเป็นรูปดอกบัวและรูปต่างๆให้ทรงลอยตามสายน้ำไหล
 พระร่วงเจ้าทรงพอพระราชหฤทัยกระทงดอกบัวของนางนพมาศมาก จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และปฏิบัติสืบต่อกันมา จนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยเหตุนี้ กระทงรูปดอกบัวจึงปรากฏมาจนทุกวันนี้ แต่เปลี่ยนชื่อเรียกว่า "ลอยกระทงประทีป" ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงตัดพิธีต่าง ๆ ที่เห็นว่าสิ้นเปลืองออก ต่อมาในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีนี้อีก ปัจจุบันนี้ การลอยพระประทีปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำเป็นการส่วนพระองค์ตามพระราชอัธยาศัย แต่พิธีของชาวบ้านยังทำกันอยู่เป็นประจำตลอดม






ประเพณีลอยกระทง ตรงกับวันเพ็ญ (วันขึ้น 15 ค่ำ) เดือน 12 (ตามปฏิทินทางจันทรคติ) ประมาณเดือนพฤศจิกายน ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อแม่พระคงคา บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก สำหรับประเทศไทยประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือ แหล่งน้ำต่าง ๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป


วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

ประวัติอินเตอร์เน็ต

ประวัติอินเตอร์เน็ต

อินเตอร์เน็ตกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ.1969 หรือประมาณปี พ.ศ. 2512 โดยพัฒนามาจาก อาร์พาเน็ต (ARPAnet) ซึ่งเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูง (Advanced Research Projects Agency) หรือเรียกชื่อย่อว่า อาร์พา (ARPA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา (Department of Defense) จุดประสงค์ของโครงการอาร์พาเน็ต เพื่อสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่คงความสามารถในการติดต่อสื่อสารถึงกันได้ แม้ว่าจะมีบางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถทำงานได้ก็ตาม 
              


  สำหรับภาคเอกชน ได้มีการก่อตั้งบริษัทสำหรับให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่เอกชนและบุคคลทั่วไป ที่นิยมเรียกกันว่า ISP (Internet Service Providers

สำหรับประเทศไทย ได้เริ่มมีการติดต่อเชื่อมโยงเข้าสู่อินเตอร์เน็ตใน พ.ศ. 2535 โดยเริ่มที่สำนักวิทยบริการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 9600 บิตต่อวินาทีจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย ต่อมาในปี พ.ศ.2536 เนคเทคได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 64 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขนถ่ายข้อมูล ทำให้ประเทศไทยมีวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ 2 วงจร หน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเชื่อมโยงเครือข่ายในระยะแรก ได้แก่ สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ และต่อมาได้ขยายไปยังหน่วยงานราชการอื่น ๆ
                สำหรับภาคเอกชน ได้มีการก่อตั้งบริษัทสำหรับให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่เอกชนและบุคคลทั่วไป ที่นิยมเรียกกันว่า ISP (Internet Service Providers

อินเตอร์เน็ต คือ  ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเกิดจากระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายย่อย ๆ หลาย ๆ เครือข่ายรวมตัวกันเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่  ซึ่งขยายความได้ดังนี้ คือ การที่คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป สามารถติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้โดยผ่านสาย Cable หรือ สายโทรศัพท์ ดาวเทียม ฯลฯ การติดต่อนั้นจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่น ใช้ Printer หรือ CD-Rom ร่วมกัน เราเรียกพฤติกรรมของคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ว่า เครือข่าย (Network) ซึ่งเมื่อมีจำนวนคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากขึ้น และมีการเชื่อมโยงกันไปทั่วโลก จนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ เราเรียกสิ่งนี้ว่า อินเตอร์เน็ต นั่นเอง 

เหตุผลสำคัญที่ทำให้อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมแพร่หลาย คือ

1. ) การสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต  ไม่จำกัดระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ที่ต่างระบบปฏิบัติการกันก็สามารถติดต่อ     
 2. ) อินเตอร์เน็ตไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทาง ไม่ว่าจะอยู่ภายในอาคารเดียวกัน หรือห่างกันคนละทวีป ข้อมูลก็สามารถส่งผ่านถึง กันได้
3. ) อินเตอร์เน็ตไม่จำกัดรูปแบบของข้อมูล ซึ่งมีได้ทั้งข้อมูลที่เป็นข้อความอย่างเดียว หรืออาจมีภาพประกอบ รวมไปถึงข้อมูลชนิด




รูปแบบของการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ตสามารถกระทำได้หลากหลาย เช่น

1.)  จดหมายอิเลคทรอนิกส์  (Electronic Mail)
จดหมายอิเลคทรอนิกส์หรือที่เรียกกันว่า E-mail เป็นการสื่อสารที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ต้องการได้รวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น

2.  )การสืบค้นข้อมูลแบบเครือข่ายใยแมงมุม  (Wold  Wide  Web : WWW)
เป็นการสื่อสารที่เติบโตเร็วที่สุดในอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุผลที่สำคัญคือง่ายต่อการใช้งานและสามารถนำเสนอข้อมูลกราฟิคได้ การใช้ World Wide Web เปรียบเสมือนการเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด โดยหนังสือที่มีให้อ่านจะสมบูรณ์มากกว่าหนังสือทั่วไป
3. ) การโอนย้ายข้อมูล  (File Transfer Protocol : FTP)
การโอนย้ายข้อมูล หรือที่นิยมเรียกกันว่า FTP เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้กันมากพอสมควรในอินเตอร์เน็ต โดยอาจใช้เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลรวมถึงโปรแกรมต่าง ๆ ทั้งที่เป็น freeware shareware จากแหล่งข้อมูลทั้งหลายมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้งานอยู่
 4.  )การแลกเปลี่ยนข่าวสาร  (USENET)
การสื่อสารประเภทนี้มาที่มาจากกระดานประกาศข่าว หรือ Bulletin Board กล่าวคือ ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน จะรวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มข่าวของแต่ละประเภท เมื่อมีข้อมูลใหม่ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกผู้อื่น หรือมีปัญหาหรือคำถามที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคำตอบ
5.  )การเข้าใช้เครื่องระยะไกล (Telnet)
Telnet เป็นการขอเข้าไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตจากระยะไกล โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปนั่งอยู่หน้าเครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนี้อาจอยู่ภายในสถานที่เดียวกับผู้ใช้ หรืออยู่ห่างกันคนละทวีปก็ได้ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ต้องมี account และรหัสผ่านจึงจะสามารถเข้าใช้เครื่องดังกล่าวได้
6.  การสนทนาผ่านเครือข่าย  (Talk หรือ Chat)
เป็นการติดต่อสื่อสารแบบ 2 ทาง คือสามารถสื่อสารโต้ตอบกันได้ทันทีเหมือนการใช้โทรศัพท์ ในการสนทนาผ่านเครือข่ายนี้สามารถทำได้ทั้งแบบ Text-based และ Voice-based โดยในระยะแรกจะจำกัดเฉพาะ Text-based คือใช้วิธีการพิมพ์เป็นข้อความในการสื่อสาร



ปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อการใช้โมเด็มในการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต มีดังนี้
 1. )คุณภาพของสายทองแดง ถ้าสายเก่า ระยะทางยาว การต่อสาย หรือหัวต่อต่าง ๆ ทำให้มีปัญหาต่อสัญญาณรบกวน
 2. )ไม่ควรใช้สายพ่วง เพราะการพ่วงสายจะทำให้อิมพีแดนซ์ของ
 3.) ต้องไม่เปิดบริการเสริมใด ๆ สำหรับสายที่ใช้โมเด็ม เช่น เปิดให้มีสายเรียกซ้อน การรับสัญญาณอื่นขณะใช้โมเด็มจะทำให้การเชื่อมโยงหยุดทันที
4. )หากชุมสายที่บ้านเชื่อมอยู่ต้องผ่านหลายชุมสายลดต่ำลง และจะมีปัญหาได้ ขณะใช้งานถ้ามีคนยกหูโทรศัพท์เครื่องพ่วงสายจะหลุดทันที สาย หรือต้องผ่านระหว่างเครือข่ายของบริษัทบริการโทรศัพท์ เช่น ระหว่าง TOT กับ TA ปัญหาของการเชื่อมโยงจะมีมากขึ้น
5. )คุณภาพของโมเด็มที่ใช้ ปัจจุบันมีโมเด็มที่ผลิตหลากหลาย และมีคุณภาพแตกต่างกัน การแปลงสัญญาณอาจมีข้อแตกต่าง ปกติหน่วยบริการอินเทอร์เน็ต มักใช้โมเด็มคุณภาพสูงอยู่แล้ว เพราะต้องให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง



วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

ขั้นตอนของการทำชั้นวางของ





ขั้นตอนที่ 1
แบบติดตายตัว กำหนดความสูงของชั้นวางบนสุดก่อนโดยวัดระยะจากพื้น ทำเครื่องหมายที่รูของขาฉาก ให้ขาด้านยาวเป็นด้านที่ติดผนัง และขาด้านสั้นรองรับแผ่นชั้น แล้วใช้สว่านเจาะเพื่อยึดด้วยสกรู โดยพยายามหลีกเลี่ยงตำแหน่งที่เป็นผนังโปร่งไม่มีโครงยึด

ขั้นตอนที่ 2
ถ้าติดตั้งชั้นวางเข้ากับผนังยิปซั่มหรือผนังปูน จะต้องใช้พุกที่เหมาะสมกับชนิดผนัง เช่น ผนังยิปซั่มใช้พุกแบบมีปีก ผนังปูนใช้พุกพลาสติกหรือโลหะก็ได้ ควรติดตั้งขาฉากของชั้นวางห่างกันไม่เกิน 2 ฟุต ซึ่งแล้วแต่น้ำหนักของสิ่งของ แต่ส่วนปลายของแผ่นชั้น แต่ละข้างไม่ควรยื่นออกจากขาฉากเกิน 1 ฟุต


ขั้นตอนที่ 3
ใช้ระดับน้ำทาบวัดระยะให้ขาฉากอีกอันได้แนวเดียวกันทำเครื่องหมายไว้แล้วจึงเจาะใส่



ขั้นตอนที่ 4
แบบปรับระดับได้ กำหนดตำแหน่งที่จะติดตั้งรางเหล็กสำหรับปรับระดับ ทำเครื่องหมายที่จะเจาะรู เจาะเข้าผนังด้วยสว่านไฟฟ้า แล้วฝังพุกแล้วจึงยึดรางด้วยสกรู






ขั้นตอนที่ 5
ใช้ระดับน้ำวางทาบบนปลายของรางเหล็กอันแรก เพื่อวัดระยะติดตั้งรางเหล็กอันที่ 2 เมื่อได้ระดับแล้วจึงทำเครื่องหมายไว้






ขั้นตอนที่ 6
ทาบรางเหล็กอันที่ 2 เข้ากับแนวที่กำหนดไว้เจาะรูและยึดรางด้วยสกรู แล้วจึงใส่ขาฉากเข้ากับรางเหล็กในระดับที่ต้องการพร้อมกับวางชั้นวางของในจำนวนที่ต้องการ




วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

ความหมายและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

                                                              

                                                         ความหมายของงานประดิษฐ์


1. ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิด
ความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ



             ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์


- ประหยัดค่าใช้จ่าย

-ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

- ความเพลิดเพลิน

- เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

- สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

-ชิ้นตรงตามความต้องการ

-เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

- อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

-เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

- เกิดความภูมิใจในตนเอง


จุดประสงค์การเรียนรู้


1. บอกความหมายของงานประดิษฐ์

2. บอกความสำคัญของงานประดิษฐ์ได้

3. ยกตัวอย่างงานประดิษฐ์ได้

4. บอกประเภทของงานประดิษฐ์ได้


วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การประดิษฐ์ของเล่น



จุดประสงค์


1. อธิบายถึงความสำคัญและประโยชน์ของการประดิษฐ์ของเล่นด้วยตนเอง

2. อธิบายหลักการประดิษฐ์อย่างเป็นขั้นตอนได้

3. เลือกและอธิบายประเภทของวัสดุที่จะนำมาประดิษฐ์เป็นของเล่นได้



เนื้อหา


การนำเอาวัสดุหรือเศษวัสดุต่าง ๆ เช่น เศษไม้ เศษกระป๋อง พลาสติก ขวดน้ำมาประกอบเป็นของเล่น เราเรียกว่า งานประดิษฐ์ การประดิษฐ์ของเล่นด้วยตนเอง ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาย ทั้งต่อตัวเอง ผู้ปกครอง และสภาพแวดล้อมด้วย





                                                                     ภาคปฏิบัติ

                                                               เริ่มต้นการประดิษฐ์


1.ศึกษากิจกรรมที่ 1 แล้วร่วมกันอภิปราย

- วางแผนการปฏิบัติงาน

- ลงมือปฏิบัติงานตามขั้นตอน


2. ให้แต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 1 ใช้เวลา 30 นาที

3. สถานที่ฝึกปฏิบัติโดยใช้ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

4. ร่วมกันอภิปรายผลการทำใบงานที่ 1 ลงในแบบบันทึกผลการปฏิบัติงาน

5. รายงานการปฏิบัติงานหน้าชั้นเรียน